แนวทางหลักในการทำ SEO ต่อไปในปี 2025
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในโลกของ Search Engine Optimizati […]
การทำอันดับให้ติดเว็บไซต์ SEO นั้น รูปภาพก็มีส่วนที่จะช่วยดันให้เว็บไซต์ติดอันดับได้เช่นกัน หากไม่ปรับขนาดรูปภาพให้เหมาะใน SEO ถึงออกแบบภาพมาสวยและน่าสนใจมากแค่ไหน ก็ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรก็เป็นได้ บทความนี้จึงมาแนะนำ Image SEO ตัวช่วยสำคัญในการทำ SEO
หลัก ๆ ของรูปภาพที่มักจะนำไปใช้ในเว็บไซต์ มี 2 ประเภท คือ
1. Vector Image คือ รูปภาพที่มีความละเอียดและความคมชัดมาก และแน่นอนว่าความคมชัดเยอะแค่ไหน ขนาดของภาพก็ยิ่งเยอะมากแค่นั้น ซึ่งกินพื้นที่ของเว็บไซต์ไม่น้อยเลย
2. Raster Image คือ เป็นรูปภาพที่มีความละเอียดไม่เยอะมาก และหากทำการซูมหรือขยายรูปเข้าไป ทำให้ภาพค่อนข้างแตกได้ง่าย
เป็นรูปภาพที่ค่อนข้างพบได้ทั่วไป และใช้งานในเว็บไซต์ไม่น้อย ซึ่งคุณภาพของภาพถือว่าค่อนข้างดี และใช้ขนาดภาพไม่ใหญ่และกินพื้นที่ของเว็บไซต์ค่อนข้างน้อย
เป็นรูปภาพที่ใช้ขนาดของรูปภาพที่คนชัด และมีความละเอียดค่อนข้างสูง รวมทั้งดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ดูคมชัดเป็นพิเศษ
เป็นรูปที่สามารถเคลื่อนไหวได้ ซึ่งเป็น Animation สั้น ๆ และค่อนข้างกินพื้นที่เยอะกว่ารูปภาพแบบ JPEG และเว็บไซต์ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยใช้งานเท่าไหร่
การใช้ขนาดรูปภาพให้เหมาะสมกับเว็บไซต์ แนะนำไม่ควรเกิน 2,560 Pixels เพื่อให้รูปมีขนาดที่เหมาะสมต่อเว็บไซต์และกันปัญหาหน้าเว็บไซต์โหลดช้าได้อีกด้วย
Image SEO หรือ Image Optimization คือการปรับแต่งรูปภาพ ปรับลดขนาดรูปภาพ ปรับแต่งความละเอียดของรูปภาพให้เหมาะสมต่อเว็บไซต์และจับข้อมูลของรูปภาพได้รวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งส่งผลดีอย่างมากในการช่วยให้เว็บไซต์นั้น ๆ ติดอันดับได้อย่างง่ายดาย
เหมือนกับการช่วยให้การเข้าถึงเว็บไซต์นั้น ๆ ไม่รอนานหรือโหลดหน้าเว็บไซต์ไม่นานจนเกินไป ซึ่งหากหน้าเว็บไซต์โหลดนานเกิน 3 วิ คนส่วนมากก็เลือกที่จะกดออกจากเว็บไซต์ได้ทันทีเลย
การปรับหน้าเว็บไซต์ให้เร็วขึ้น ส่งผลดีไม่น้อยต่อ SEO อีกทั้งหากทำให้เว็บโหลดได้เร็วขึ้นมากแค่ไหน ผู้เข้าชมก็ยิ่งเข้าเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้นเท่านั้น
Conversion มีผลดีไม่น้อยที่ทำให้ SEO เติบโตขึ้นได้ ซึ่งเป็นการดึงดูดฐานลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังมีโอกาสที่ลูกค้าจะสนใจสินค้าของเราได้ไม่น้อย
เมื่อเว็บไซต์โหลดเร็วมากแค่ไหน ยิ่งมีโอกาสที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้นแค่นั้น และมีแนวโน้มทำให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
หากเว็บไซต์ไหนใช้รูปภาพที่เยอะมากและขนาดภาพที่ใหญ่มากเกินไป เว็บไซต์นั้น ๆ มักจะช้า และพลาดโอกาสที่ลูกค้าจะเข้าถึงสินค้าและบริการนั้นได้ ๆ และทำให้การทำ SEO เสียเวลาเปล่า ๆ ไปเลยทีเดียว
การปรับขนาดรูปภาพ หรือ Image SEO เป็นการปรับขนาดและไฟล์ของรูปภาพให้มีขนาดพอดี ซึ่งสามารถส่งผลดีต่อการทำ SEO ไม่ว่าจะเป็นการปรับขนาดไฟล์ภาพ ย่อขนาดของภาพ รวมถึงตั้งชื่อรูปภาพ เพื่อให้ Google ประเมินรูปภาพได้ดีขึ้น และมีโอกาสติดอันดับ SEO ได้ดีที่สุด