แนะนำ 7 Plugin WordPress สำหรับการทำ SEO เบื้องต้นที่ควรรู้จักไว้

การสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress และเลือกใช้ปลั๊กอินจาก WordPress ที่เหมาะสม เพื่อให้เว็บไซต์รองรับการทำ SEO นั้นสำคัญมากๆ เพราะจะช่วยให้การปรับปรุงเว็บไซต์มีประสิทธิภาพในการค้นหาได้ดีมากขึ้น และช่วยให้คุณจัดการกับองค์ประกอบต่างๆ ของ SEO ภายในเว็บไซต์ได้ง่าย แล้วต้องเลือกปลั๊กอินยังไง มีปลั๊กอิน SEO แบบไหนที่น่าสนใจบ้าง บทความนี้มีคำตอบ

ฟังก์ชั่น SEO ที่สำคัญและควรมีในปลั๊กอิน SEO

  • การวิเคราะห์เนื้อหา : ช่วยวิเคราะห์เนื้อหาของเว็บไซต์ว่ามีประสิทธิภาพในการค้นหาหรือไม่ และให้คำแนะนำในการปรับปรุง
  • การตั้งค่า Meta Title และ Meta Description : ช่วยกำหนด Title และ Description ของหน้าเว็บได้อย่างถูกต้อง
  • การสร้าง Sitemap : ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น
  • การจัดการ Internal Link : ช่วยให้สร้างลิงก์เชื่อมต่อภายในเว็บไซต์เพื่อเชื่อมโยงหน้าต่างๆ เข้าด้วยกัน
  • การตรวจสอบ Broken Link : ช่วยตรวจสอบหาลิงก์ที่เสียหาย
  • เพิ่มประสิทธิภาพของรูปภาพ : ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดาวน์โหลดรูปภาพเพื่อให้โหลดได้เร็วขึ้น
  • รองรับ Schema Markup : ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์ได้ดีขึ้น

ปลั๊กอิน WordPress สำหรับ SEO ที่ได้รับความนิยม และน่าสนใจ

สำหรับการเลือกใช้งานปลั๊กอิน SEO ที่ดีจะช่วยให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพในการทำ SEO ได้มาก และยังเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการได้อีกด้วย และนี่คือ 7 ปลั๊กอิน SEO ที่เราแนะนำ

1. Yoast SEO

ถ้าพูดถึง SEO จะขาดปลั๊กอินตัวนี้ไปไม่ได้เลย ด้วยความสามารถที่ครอบคลุม และใช้งานง่ายที่สุดถือเป็นปลั๊กอินนึงที่มีคุณสมบัติมากมาย เช่น การวิเคราะห์เนื้อหา, การตั้งค่า Meta Title และ Meta Description, Sitemap และอื่นๆ และได้รับการันตีว่าใช้งานได้ดีจริงๆ จากบริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress อีกหลายแห่ง

จุดเด่น : การทำงานครอบคลุม และใช้งานง่าย

คุณสมบัติ :

  • การวิเคราะห์เนื้อหา
  • ตั้งค่า Meta Title และ Meta Description
  • สร้าง Sitemap
  • การจัดการ Breadcrumbs
  • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวกับ Google Search Console

2. All in One SEO Pack

ถัดมาก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ และมีคุณสมบัติที่คล้ายๆ กับ Yoast SEO แต่ก็จะมีอินเทอร์เฟซการแสดงหน้าใช้งานที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย

จุดเด่น : ครอบคลุมและใช้งานง่ายเช่นกัน

คุณสมบัติ :

  • การตั้งค่า Meta Title และ Meta Description
  • การสร้าง Sitemap
  • การสนับสนุน Google Analytics
  • การปรับปรุง SEO สำหรับ Ecommerce

3. Rank Math

อีกหนึ่งปลั๊กอินฟรีที่มีคุณสมบัติครอบคลุมการใช้งานมากมาย เช่น การวิเคราะห์คีย์เวิร์ด, สร้าง Internal Link และการจัดการ Redirect เว็บไซต์

จุดเด่น : ใช้งานได้ฟรี

คุณสมบัติ :

  • การวิเคราะห์คีย์เวิร์ด (Keyword Planner)
  • การสร้าง Internal Link
  • การจัดการ Redirect
  • การวิเคราะห์เนื้อหา SEO
  • การสนับสนุน Schema Markup

4. SEOPress

ตัวนี้เป็นปลั๊กอินที่เน้นการทำความเร็วเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความเร็วให้กับเว็บไซต์ เพราะการที่เว็บไซต์โหลดเร็วก็นับว่าเป็นผลดีต่อการทำอันดับ Google

จุดเด่น : เน้นความเร็วและประสิทธิภาพ

คุณสมบัติ :

  • การตั้งค่า Meta Title และ Meta Description
  • การสร้าง Sitemap
  • การจัดการ Breadcrumbs
  • การตั้งค่า Open Graph และ Twitter Cards
  • การสนับสนุน Google Analytics

5. Squirrly SEO

เป็นปลั๊กอินที่เน้นการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดและการให้คำแนะนำในการปรับปรุงเนื้อหาเพื่อให้มีประสิทธิภาพ SEO สูงสุด

จุดเด่น : เน้นการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด และการเพิ่มประสิทธิภาพด้าน SEO

คุณสมบัติ :

  • การวิเคราะห์คีย์เวิร์ด  (Keyword Planner)
  • การให้คำแนะนำในการปรับปรุงเนื้อหา SEO
  • ติดตามผลการจัดอันดับบน Google
  • ทำงานร่วมกับ Social Media

6. WP Meta SEO

เป็นปลั๊กอินที่เน้นการจัดการ Meta Data และการสร้าง XML Sitemap

จุดเด่น : เน้นการจัดการ Meta Data และการสร้าง XML Sitemap

คุณสมบัติ :

  • การจัดการ Meta Title และ Meta Description
  • การสร้าง Sitemap
  • การตั้งค่า Open Graph และ Twitter Cards
  • การตรวจสอบลิงก์เสีย
  • การแสดงผลการวิเคราะห์ใน Dashboard

7. SEMrush SEO Writing Assistant

ปลั๊กอินที่ทำงานร่วมกับเครื่องมือ SEMrush เพื่อช่วยในการวิเคราะห์เนื้อหาและให้คำแนะนำในการปรับปรุง

จุดเด่น : ทำงานร่วมกับเครื่องมือ SEMrush

คุณสมบัติ :

  • การวิเคราะห์เนื้อหา
  • การให้คำแนะนำในการปรับปรุงเนื้อหา SEO
  • การตรวจสอบความสามารถในการอ่าน
  • การแนะนำคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม
  • การวิเคราะห์ความยาวของเนื้อหา

ทริคง่ายๆ ในการเลือกปลั๊กอิน SEO เบื้องต้น

  • ปลั๊กอินที่ใช้งานง่าย : ควรเลือกปลั๊กอินที่มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และเข้าใจได้ไม่ยาก
  • ปลั๊กอินที่ได้รับการอัปเดตบ่อย : ปลั๊กอินที่ได้รับการอัปเดตบ่อยจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าสามารถเข้ากันได้กับเวอร์ชันของ WordPress ล่าสุด และมีคุณสมบัติใหม่ๆ อัปเดตเพิ่มเข้ามาอยู่เสมอ
  • อ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง : การอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานคนอื่นๆ เพื่อดูว่าปลั๊กอินนั้นมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับการใช้งานหรือไม่ เพราะอาจใช้งานได้ดีสำหรับบางคน และอาจไม่ดีสำหรับบางคนเช่นกัน

ข้อควรระวังการเลือกปลั๊กอิน WordPress

  • อย่าติดตั้งปลั๊กอินให้มากเกินไป : การติดตั้งปลั๊กอินจำนวนมากจะทำให้เว็บไซต์ทำงานได้ช้าลง และอาจเกิดการ Interrupt ของปลั๊กอินด้วยกันเองทำให้เว็บดับ
  • อัปเดตปลั๊กอินเป็นประจำ : การอัปเดตปลั๊กอินจะช่วยแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ ไม่ให้ล้าหลังหรือเกิดการไม่ซัพพอร์ตกับเวอร์ชั่น WordPress
  • ปรึกษาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือกใช้งานปลั๊กอินแบบไหนดี แนะนำให้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO เพื่อคำแนะนำที่เหมาะสม

ถ้าเลือกใช้ปลั๊กอิน SEO ที่ไม่ดีจะเกิดอะไรขึ้นกับเว็บไซต์

1. ผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเว็บไซต์

ปลั๊กอินที่ไม่ได้อัปเดตระบบอาจใช้ทรัพยากรจากเซิร์ฟเวอร์มากเกินไป ทำให้เว็บไซต์ทำงานช้าลงหรือเกิดปัญหาเซิร์ฟเวอร์ล่มได้

2. ปัญหาความเข้ากันได้ของปลั๊กอิน

ถ้าปลั๊กอินที่ไม่เข้ากันกับปลั๊กอินหรือธีมตัวอื่นๆ อาจทำให้เกิดปัญหาบนเว็บไซต์ เช่น เว็บไซต์แสดงผลผิดพลาด หรือฟีเจอร์บางอย่างไม่ทำงาน

3. ปัญหาด้าน SEO

ปลั๊กอินที่ไม่มีฟีเจอร์ด้าน SEO อาจทำให้พลาดโอกาสในการปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ และถ้าหากปลั๊กอินไม่สามารถสร้าง Sitemap ที่ถูกต้องได้ อาจทำให้ Search Engine ไม่สามารถ Index เนื้อหาเว็บไซต์เข้ากับ Google ได้

4. ปัญหาด้านความปลอดภัย

ปลั๊กอินที่ไม่ได้รับการพัฒนาอาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ทำให้เว็บไซต์เสี่ยงต่อการถูกโจมตี และการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เหมาะสม 

และทั้งหมดนี่ก็คือการเลือกใช้ปลั๊กอิน WordPress สำหรับ SEO ที่เหมาะสม เพื่อที่จะช่วยให้เราสามารถปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ ในผลการค้นหาของ Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้มากขึ้น และควรที่จะระวังการใช้งานปลั๊กอินยังไง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา แต่ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าจะสามารถใช้งานปลั๊กอินหรือสร้างเว็บไซต์จาก WordPress ได้อย่างถูกต้องการเลือกใช้งาน บริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress ก็จะช่วยให้เลี่ยงปัญหานี้ได้