ธุรกิจเติบโตขึ้น เมื่อติดหน้าแรก Google ด้วย SEO

สำหรับธุรกิจไหนที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง หากต้องการเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของคุณ การทำ SEO เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization หรือก็คือ กระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับ Google เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในอันดับต้นๆ ของผลการค้นหา เมื่อผู้คนค้นหาคำหรือวลีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ดังนั้น ยิ่งเว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับที่สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสมากที่คนจะคลิกเข้ามาดูเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นเช่นกัน

SEO ช่วยให้ธุรกิจโตขึ้นได้อย่างไร

การทำ SEO เป็นการปรับแต่งเว็บไซต์และเนื้อหาให้ติดอันดับการค้นหาบน Google ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มยอดขายได้หลายทาง ดังนี้

  1. เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เมื่อเว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกของการค้นหาที่เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของคุณ จะทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น และมีโอกาสเข้ามาดูสินค้าหรือบริการมากขึ้นด้วยเช่นกัน
  2. สร้างความน่าเชื่อถือ เว็บไซต์ที่ติดอันดับต้นๆ หรือหน้าแรกของการค้นหา มักถูกมองว่ามีความน่าเชื่อถือมากกว่าเว็บไซต์ไม่ติดอันดับ ส่งผลให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการซื้อสินค้าหรือใช้บริการมากขึ้น
  3. เพิ่ม Traffic แบบ Organic SEO ช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์แบบ Organic หรือการเข้าชมเว็บไซต์ผ่านการค้นหาโดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสซื้อสินค้าหรือใช้บริการสูงกว่ากลุ่มลูกค้าที่เข้ามาจากการโฆษณา
  4. ลดต้นทุนการตลาด SEO เป็นการลงทุนที่ช่วยลดต้นทุนการตลาดในระยะยาว เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าโฆษณาเพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาบน Google
  5. สร้างโอกาสในการขาย เมื่อมีคนเข้ามาดูสินค้าหรือบริการในเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น โอกาสในการขายก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ทำ SEO อย่างไรให้ติดหน้าแรกบน Google

การทำ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกบน Google นั้น ต้องใช้ความเข้าใจและความอดทน เพราะไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัว และอัลกอริทึมของ Google ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่ในการทำ SEO ก็มีหลักการพื้นฐานและเทคนิคสำคัญๆ ที่ไม่ค่อยเปลี่ยนไปตามอัลกอริทึมอยู่เช่นกัน ซึ่งมีหลักการดังนี้

1. การวิเคราะห์และวางแผน

  • วิเคราะห์ Keyword (คำหลัก): ศึกษาและเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและเนื้อหาของเว็บไซต์ โดยใช้เครื่องมือช่วยวิเคราะห์ เช่น Google Keyword Planner, Google Trends, Ubersuggest
  • วิเคราะห์คู่แข่ง: ศึกษาเว็บไซต์คู่แข่งที่ติดอันดับในคีย์เวิร์ดเดียวกัน ว่ามีจุดเด่นจุดด้อยอะไรบ้าง เพื่อนำมาปรับปรุงเว็บไซต์ของเรา
  • กำหนดเป้าหมาย: วางแผนว่าต้องการให้เว็บไซต์ติดอันดับในคีย์เวิร์ดใดบ้าง และภายในระยะเวลาเท่าไร

2. On-Page SEO (การปรับแต่งภายในเว็บไซต์)

  • ปรับแต่งเนื้อหา (Content): สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง น่าสนใจ ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน และมีการใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสม
  • ปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์: ให้โครงสร้างเว็บไซต์มีความชัดเจน เข้าใจง่าย และเป็นมิตรต่อเครื่องมือค้นหา (Search Engine Friendly)
  • ปรับแต่ง Meta Tags: ตั้งค่า Meta Title และ Meta Description ให้ดึงดูดความสนใจ และควรมีคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย
  • ปรับแต่ง URL: ใช้ URL ที่สั้น กระชับ อ่านง่าย และควรมีคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง
  • เพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บไซต์: ปรับแต่งรูปภาพและไฟล์ต่างๆ ให้มีขนาดเล็ก และใช้เทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บไซต์
  • ปรับแต่งเว็บไซต์ให้รองรับการใช้งานบนมือถือ (Mobile-Friendly): เนื่องจากผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักเข้าถึงเว็บไซต์ผ่านมือถือ หรือปรับให้รองรับการเข้าใช้งานบนทุกอุปกรณ์เลยได้ยิ่งดีค่ะ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้รับประสบการณ์ดีๆ จากการเข้าชมเว็บไซต์ของเรา

3. Off-Page SEO (การปรับแต่งภายนอกเว็บไซต์)

  • สร้าง Backlink ที่มีคุณภาพ: Backlink คือลิงก์จากเว็บไซต์อื่น ๆ ที่ชี้มายังเว็บไซต์ของเรา ยิ่งมี Backlink คุณภาพสูงมากเท่าไร ก็ยิ่งส่งผลดีต่ออันดับใน Google
  • โปรโมทเว็บไซต์ผ่านช่องทางต่างๆ  เช่น โซเชียลมีเดีย, ฟอรัม, บล็อก หรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • ลงทะเบียนเว็บไซต์ในเครื่องมือค้นหา เช่น Google Search Console, Bing Webmaster Tools

4. การวัดผลและปรับปรุง

  • ติดตามผลการทำ SEO: ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Google Analytics, Google Search Console เพื่อติดตามผลการทำ SEO ว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
  • ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง: SEO เป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ควรหมั่นปรับปรุงเนื้อหา โครงสร้างเว็บไซต์ และเทคนิคต่าง ๆ ให้ทันสมัยอยู่เสมอ

ทำไมต้องติดหน้าแรกของ Google

HubSpot ได้จัดทำสถิติการค้นหาบนแพลตฟอร์มต่างๆ และพบว่า กว่า 93% ของทั่วโลกนิยมค้นหาข้อมูลบน Google และ 75% ของการค้นหาเกิดขึ้นผ่านหน้าแรกของแพลตฟอร์ม

จากข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่า การติดหน้าแรก Google นั้นสำคัญแค่ไหนสำหรับธุรกิจ เพราะหากเว็บไซต์ของคุณติดอันการค้นหาในหน้าแรก ไม่ว่าจะ Top 10, Top 5, Top 3 หรืออันดับ 1 ก็มีโอกาสที่จะเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้ทั้งนั้น

ด้วยการมีผู้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น โอกาสที่จะเปลี่ยนจากผู้เข้าชมเป็นลูกค้าก็มีมากขึ้นเช่นกัน

แล้วทำไมไม่เลือกทำ Google Ads ทั้งๆ ที่เป็นวิธีที่ง่ายกว่า เร็วกว่าที่จะทำให้ติดอันดับการค้นหางั้นเหรอคะ

นั้นก็เพราะ จากสถิติ 70 – 80% ของผู้เข้าใช้งาน ส่วนใหญ่เลือกที่จะเข้าชมเว็บไซต์ทั่วไป และเมินเว็บไซต์ที่เสียค่าใช้จ่ายหรือมีการทำโฆษณา Google Ads ฉะนั้นการทำ SEO จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า ถึงแม้จะต้องใช้ความอดทนและระยะเวลา แต่ก็คุ้มค่าสำหรับการลงทุนในระยะยาวค่ะ

เริ่มต้นทำ SEO กับ CzGroup

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง และอยากเริ่มต้นทำ SEO เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการ แต่ไม่รู้ว่าควรเริ่มอย่างไรดี บริษัท ซี แซด กรุ๊ป ของเรามีบริการรับทำ SEO สายขาว พร้อมให้คำปรึกษา ฟรี! ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 14 ปี และมีเทคนิคเฉพาะทางที่ไม่เหมือนใคร เรารับประกันว่าทำ SEO กับเรา เว็บไซต์ของคุณจะติดอันดับการค้นหาบน Google อย่างแน่นอนค่ะ

| ติดต่อเรา

ขอคำปรึกษา ทำ SEO ติดหน้าแรกบน Google