หลายคนที่ทำเว็บไซต์หรือทำธุรกิจออนไลน์อาจเคยได้ยินมาว่า เว็บโหลดช้า อันดับตก เรื่องนี้เป็นความจริงมากน้อยแค่ไหนกันนะ? ลองคิดดูสิ ถ้าเราเข้าเว็บไซต์ที่ใช้เวลาโหลดนานแสนนาน เรารู้สึกยังไงบ้าง คำตอบคือ เราคงไม่ชอบเว็บนั้นมากนัก Google เองก็ไม่ต่างกัน เว็บไซต์ที่โหลดช้ามากๆ มีผลทำให้อันดับตกได้จริง แล้วทำไมเว็บโหลดช้าถึงส่งผลต่ออันดับ SEO กันนะ และจะมีวิธีปรับปรุงเว็บให้เร็วขึ้นได้ยังไงบ้าง หาคำตอบในบทความนี้ได้เลย
ทำไมเว็บโหลดช้าแล้วอันดับ SEO ถึงแย่ลง?

Google ให้ความสำคัญกับเว็บที่โหลดเร็ว เพราะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น ปัญหาเว็บโหลดเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อผู้ใช้ (User Experience – UX) จึงมีผลต่ออันดับของเว็บไซต์บน Google ด้วย ยิ่งเว็บไซต์โหลดช้ามากๆ โอกาสที่ผู้เข้าชมจะกดออกจากเว็บก็ยิ่งมีมากขึ้น พอเป็นแบบนี้บ่อยเข้า Google ก็จะมองว่าเว็บของเราเป็นเว็บที่ไม่ดี ไม่มีประโยชน์ หรือไม่น่าใช้งาน คะแนนการจัดอันดับของเราจะลดลง และทำให้การทำ SEO ของเว็บไซต์มีอันดับแย่ลงด้วย
รวมเคล็ดลับ 5 ข้อ เพื่อปรับเว็บไซต์ให้เร็วขึ้น
วิธีที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณทำงานได้เร็วขึ้น โหลดเร็วขึ้น และรักษาอันดับบน Google สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ทำตามเคล็ดลับต่อไปนี้
1. ลดขนาดไฟล์รูปภาพ
รูปภาพเป็นองค์ประกอบหลักที่ทำให้เว็บไซต์น่าสนใจ แต่หากรูปมีขนาดใหญ่เกินไป ก็จะทำให้เว็บโหลดช้าขึ้นอย่างมาก รูปภาพขนาดใหญ่ทำให้หน้าเว็บโหลดช้า ควรใช้ฟอร์แมตที่เหมาะสม เช่น WebP แทน PNG/JPG และบีบอัดไฟล์โดยไม่ลดคุณภาพด้วยเครื่องมืออย่าง TinyPNG หรือ Squoosh
2. ใช้ระบบแคช (Caching)
การแคช (Cache) คือ การเก็บข้อมูลเว็บเพจไว้ที่ฝั่งผู้ใช้หรือเซิร์ฟเวอร์ชั่วคราว ทำให้เมื่อผู้ใช้กลับเข้ามาอีกครั้ง เว็บจะโหลดเร็วขึ้นมากเพราะไม่ต้องโหลดข้อมูลใหม่ทั้งหมด ระบบแคชช่วยให้เบราว์เซอร์เก็บไฟล์เว็บเพจไว้ชั่วคราว ทำให้ผู้ใช้โหลดหน้าเว็บซ้ำได้เร็วขึ้น สามารถตั้งค่าแคชผ่านปลั๊กอิน (สำหรับ WordPress) หรือใช้ CDN เช่น Cloudflare
3. ลดการโหลดสคริปต์ที่ไม่จำเป็น
JavaScript และ CSS มักให้หน้าเว็บโหลดช้า เว็บไซต์ส่วนใหญ่ที่มีการใช้สคริปต์และโค้ดจำนวนมากๆ ยิ่งมีมากก็จะยิ่งโหลดช้าขึ้น จึงควรลดการโหลดให้น้อยลงด้วยวิธีต่างๆ เช่น
- รวมไฟล์ CSS และ JavaScript ที่ใช้บ่อยเข้าด้วยกัน (Minify)
- ใช้เครื่องมือเช่น Autoptimize, WP Rocket หรือ Fast Velocity Minify
- ลบปลั๊กอินที่ไม่ได้ใช้ออก เพราะปลั๊กอินบางตัวอาจโหลดโค้ดหนัก จนทำให้เว็บช้า

4. ใช้โฮสติ้งและเซิร์ฟเวอร์ที่มีคุณภาพ
โฮสติ้งที่ไม่ดีอาจเป็นสาเหตุหลักของเว็บโหลดช้า ต่อให้ปรับแต่งเว็บดีแค่ไหน ถ้าโฮสต์ช้า เว็บก็ช้าด้วย แนะนำให้ใช้ WordPress Hosting ที่มี SSD และรองรับ HTTP/2 พร้อมกระจายโหลดด้วย CDN (เช่น Cloudflare, AWS CloudFront) เพื่อให้เว็บโหลดเร็วมากขึ้น
5. หมั่นตรวจสอบประสิทธิภาพเว็บไซต์อยู่เสมอ
การปรับปรุงเว็บให้เร็วขึ้น ควรตรวจสอบเว็บไซต์เป็นประจำ เพื่อตรวจสอบว่าตอนนี้เว็บไซต์โหลดช้าหรือเร็ว ถ้าช้าเป็นเพราะอะไร และปรับปรุงตามคำแนะนำ สามารถตรวจสอบได้ด้วยเครื่องมือ เช่น
- Google PageSpeed Insights
- GTmetrix
- Lighthouse (Chrome DevTools)
ดังนั้น เว็บที่โหลดช้าไม่ได้แค่สร้างความรำคาญให้ผู้ใช้ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการทำ SEO และอันดับบน Google ดังนั้น การปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ถ้าต้องการให้เว็บไซต์มีอันดับดีขึ้น ควรปรับปรุงให้เร็วขึ้นโดยลดขนาดรูป ใช้แคช ลดสคริปต์ไม่จำเป็น ใช้เซิร์ฟเวอร์ดีๆ และตรวจสอบความเร็วอย่างสม่ำเสมอ หรือใช้บริการรับทำ SEO ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO สามารถให้คำแนะนำเพื่อให้เว็บไซต์ของธุรกิจคุณ ติดอันดับต้นๆ ของหน้าแรกบน Google ได้ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เว็บไซต์ของเราเร็วขึ้นได้ไม่ยากแล้ว